8/21/2012

Book Of The Week



How to win friends and influence people โดย Del Carnegie เป็นหนังสือที่ยังคงขายดีตลอดกาล อยู่ในหมวดจิตวิทยามนุษย์ มีเนื้อหากล่าวถึงธรรมชาติอันแท้จริง สันชาติญาณ ความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ ภายในรวบรวมเหตุการณ์สำคัญๆของบุคคนสำคัญทั่วโลกที่อยู่ในสภาวะความขัดแย้ง อ่านจากชื่อไม่ใช่การกล่าวถึงวิธีปฎิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ในแง่ของการหลอกใช้และให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการของตนเองหรือเอาชนะความคิดเห็นของคนอื่น แต่เป็นเรื่องของการเข้าใจความเป็นไปพื้นฐานของมนุษย์ ผมชอบอยู่ตอนนึงที่กล่าวว่า มนุษย์ไม่มีใครโทษตนเอง แม้ผู้นั้นจะทำกระทำผิดมากมายถึงขั้นเป็นอาชญากร เค้าเหล่านั้นก็ยังคงเชื่อว่าเขากระทำถูกแม้จนวินาทีสุดท้ายของการประหาร อะไร?ทำให้พวกเค้าคิดเช่นนั้น การที่เราเข้าใจถึงธรรมชาติของมนุษย์จะทำให้เรารู้ว่า สิ่งที่เราไม่ควรกระทำคือ การตำหนิติเตียนถึงแม้เค้าผู้นั้นจะกระทำผิด เพราะมันไม่ได้ช่วยให้เค้าเหล่านั้นสำนึกผิดหรือแก้ไขให้ดีขึ้นเลย รันแต่จะทำให้ตัวท่านเกิดศัตรู "การตำหนิติเตียนเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ก็เพราะจะทำให้ผู้ถูกตำหนิติเตียนแก้ตัวต่างๆและพยายามที่จะเข้าข้างตัวเอง การตำหนิติเตียนเป็นภัย ก็เพราะมันสามารถทำให้จิตใจอันภาคภูมิของมนุษย์ได้รับความปวดร้าว ทำลายความรู้สึกของการเป็นคนมีความสำคัญ และก่อให้เกิดโทสะ" ในหนังสือเล่มนี้ทำให้เราเข้าใจเพื่อนและมิตรรอบข้างมากขึ้น เข้าใจโลกแห่งความเป็นจริง เข้าใจความต้องการของอีกฝ่าย เหตุการณ์ตัวอย่างในหนังสือเล่มนี้มีตั้งแต่ สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ความขัดแย้งในราชวงศ์ หรือแม้แต่ความขัดแย้งทางการเมือง แต่เหตุการณ์เหล่านี้ ยังคงคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ปัจจุบัน สามารถใช้ได้กับการทำงานในองค์กร รวมไปถึงปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ ทั้งในโลกแห่งความเป็นจริง และโลกออนไลน์ที่มีมากไปด้วยสงครามน้ำลายที่เห็นๆกันอยู่

การได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ผมได้เห็นถึงการกระทำของตนเองที่ผ่านมาและการกระทำของบางคนที่กระทำต่อผมและบุคคลอื่น เห็นได้ชัดในความขัดแย้งของคน บางครั้งสมควรได้รับการแก้ไข แต่บางครั้งก็แทบอยากจะเข้าไปเตือนก่อนที่เค้าเหล่านั้นจะถลำลึกลงไปมากกว่านี้ ว่าสิ่งที่เค้ากระทำนั้นไม่ได้ช่วยให้เขาดูเป็นคนที่ยิ่งใหญ่หรือน่าเกรงขามในการกระทำต่ออีกฝ่ายให้รู้สึกขายหน้าด้วยการตำหนิติเตียน รันแต่จะสร้างศัตรู ถ้าเราได้เข้าไปอยู่ในสังคมโลกกว้างจริงๆแล้ว การประพฤติปฎิบัติอันดีต่ออีกฝ่ายจะนำพาซึ่งประโยชน์มายังตัวเองทั้งสิ้น ทั้งนี้ในหนังสือยังพูดถึงความจริงใจ การที่จะไม่ตำหนิติเตียนหรือทำร้ายจิตใจผู้อื่น ก็ไม่ได้หมายถึงให้เป็นคนเสแสร้งแกล้งพูดว่าชอบว่าดี เพราะสิ่งเหล่านั้นมันจะย้อนมาทำร้ายตัวผู้พูดเองในไม่ช้า

ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันเป็นเรื่องของความเข้าใจที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ มันเป็นศิลปะของการเป็นผู้นำและการเป็นที่รักของเพื่อน คนรอบข้าง และลูกน้องในองค์กร หากท่านคิดว่าท่านมีมิตรมากพอแล้วไม่จำเป็นต้องทำให้ใครมารักมาชอบอีก หนังสือเล่มนี้ก็คงไม่ได้สร้างประโยชน์อันใดต่อตัวท่าน และไม่คู่ควรที่ได้รับการเรียนรู้จากท่าน จงลืมไปซะละกันว่าไม่ได้อ่านบล๊อคนี้เมื่อ 5 นาทีที่แล้ว